เดี๋ยวต้นปีหน้าค่อยเตรียมสอบ TOEFL ตอนนี้ขอเตรียม IELTS ก่อนนะคะ
ไปนี่เลยค่ะ....
http://go-ielts.blogspot.com
Thursday, July 19, 2007
Sunday, July 15, 2007
IELTS essay 1
ตำราเค้าบอกว่าการที่เราฝึกเขียนบทความบ่อย ๆ (หรือลอกตามนั่นล่ะค่ะ) จะทำให้เราคุ้นเคยกับสำนวน โครงสร้าง การใช้คำ วลี หรือประโยค แล้วจะช่วยให้ทำข้อสอบในส่วนของ Writing ได้คะแนนดี....
งั้นเดี๋ยวจะลองหา IELTS essay ที่ทำได้คะแนน band 7 มาลองลอกกันดูนะคะ เขียนหรือพิมพ์ก็ได้ค่ะ..ลองกันเลย.....
----------------------------------------------------------------------------------------
Popular events like the football World Cup and other international sporting occasions are essential in easing international tensions and releasing patriotic emotions in a safe way.
To what extent do you agree or disagree with this opinion? (ไม่ชอบดูกีฬาซะด้วย ......ยังงัยลองลอกตามเค้าไปก่อนดีกว่าค่ะ)
The World Cup football matchs and the Olympics are held worldwide with great national support and expectations.As a fan of those competitions, I agree with the idea that sporitng events can be necessary for international relations and national unity. In this essay,I will write about the effects of these popular sporting events.
First of all, the World Cup, Olympics and other international games work for easing tensions among different nations.For example, South and North Korea have football games regularly, which gives the two nations a chance to understand each other better.In the mid 1990s, hundreds of North Korean supporters came to South Korea with the footballers and the were very excited during the sporting events. Even if it sounds ridiculous, many South Koreans were quite surprised at that moment when North Koreans shouted and cried during the match.We all realized that they were very normal sports fans even though they were occasionally very secretive. Through the sports, two divided nations could reduce their political and ideological tensions and could feel the patriotic unity.
On the other hand, some sports matches can make international relations worse. For instance, football or baseball games between Korea and Japan are always big matches in two countries where tensions often overflow. Sometimes, after the matches, the two rivals blame each other and patriotic emotions explode in an aggressive way.A much worse scenario is that the troubles caused by losing games affect the players directly.As far as I know, a couple of Korean players in Japan have suffered from invisible discrimination after match between two countries.
In conclusion, I thing that international sporting occasions can be one of the good ways to ease tensions or to release patriotism safely. However, I believe that games can not be the fundamental ways for the sound patriotism or peaceful international relations.
ตัวอย่าง essay จาก www.ielts-blog.com
งั้นเดี๋ยวจะลองหา IELTS essay ที่ทำได้คะแนน band 7 มาลองลอกกันดูนะคะ เขียนหรือพิมพ์ก็ได้ค่ะ..ลองกันเลย.....
----------------------------------------------------------------------------------------
Popular events like the football World Cup and other international sporting occasions are essential in easing international tensions and releasing patriotic emotions in a safe way.
To what extent do you agree or disagree with this opinion? (ไม่ชอบดูกีฬาซะด้วย ......ยังงัยลองลอกตามเค้าไปก่อนดีกว่าค่ะ)
The World Cup football matchs and the Olympics are held worldwide with great national support and expectations.As a fan of those competitions, I agree with the idea that sporitng events can be necessary for international relations and national unity. In this essay,I will write about the effects of these popular sporting events.
First of all, the World Cup, Olympics and other international games work for easing tensions among different nations.For example, South and North Korea have football games regularly, which gives the two nations a chance to understand each other better.In the mid 1990s, hundreds of North Korean supporters came to South Korea with the footballers and the were very excited during the sporting events. Even if it sounds ridiculous, many South Koreans were quite surprised at that moment when North Koreans shouted and cried during the match.We all realized that they were very normal sports fans even though they were occasionally very secretive. Through the sports, two divided nations could reduce their political and ideological tensions and could feel the patriotic unity.
On the other hand, some sports matches can make international relations worse. For instance, football or baseball games between Korea and Japan are always big matches in two countries where tensions often overflow. Sometimes, after the matches, the two rivals blame each other and patriotic emotions explode in an aggressive way.A much worse scenario is that the troubles caused by losing games affect the players directly.As far as I know, a couple of Korean players in Japan have suffered from invisible discrimination after match between two countries.
In conclusion, I thing that international sporting occasions can be one of the good ways to ease tensions or to release patriotism safely. However, I believe that games can not be the fundamental ways for the sound patriotism or peaceful international relations.
ตัวอย่าง essay จาก www.ielts-blog.com
Saturday, July 14, 2007
IELTS : Reading II
วันนี้ลองทำ Reading ไปบทความนึง กำหนดใช้เวลา 20 นาที ทำไม่ทันค่ะ เลยต้องรีบมั่วไปบ้าง (พยายามจำลองเวลาให้เสมือนจริงที่สุด) ผิดไปเยอะเลย....
การทำข้อสอบ Reading เค้าบอกว่าต้องใช้ทักษะการอ่านแบบจับใจความสำคัญ (Skimming/Scanning) เพื่อหาข้อมูลที่เป็นสาระ ใจความสำคัญ (Gist หรือ Paraphase)
ลักษณะคำถามวันนี้คือเป็นการจับคู่ใจความคิดเห็นกับผู้ที่แสดงความเห็นนี้ในบทความ
ซึ่งในบทความจะมีการให้ความเห็นโดยบุคคลต่าง ๆ 6-7 คน
...สู้ สู้
การทำข้อสอบ Reading เค้าบอกว่าต้องใช้ทักษะการอ่านแบบจับใจความสำคัญ (Skimming/Scanning) เพื่อหาข้อมูลที่เป็นสาระ ใจความสำคัญ (Gist หรือ Paraphase)
ลักษณะคำถามวันนี้คือเป็นการจับคู่ใจความคิดเห็นกับผู้ที่แสดงความเห็นนี้ในบทความ
ซึ่งในบทความจะมีการให้ความเห็นโดยบุคคลต่าง ๆ 6-7 คน
- ให้อ่านคำถามให้เ้ข้าใจก่อนนะคะ แล้วก้อก็อ่านความคิดเห็นต่าง ๆ ที่เป็นคำถาม เพื่อให้สมองเราจดจำ คุ้นเคย หรือคุ้นชิน (familiarize) กับความคิดเห็นพวกนี้ไว้ (ก่อนจะอ่านบทความเต็ม ๆ)
- คราวนี้ก็กวาดสายตามอ่านบทความพอเจอกับชื่อบุคคลที่แสดงความเห็น ก็กลับไปดูที่คำถามลองเพื่อดูความคิดเห็นต่าง ๆ อีกคร้ง ว่าอันไหนสอดคล้องกับคนนั้น ๆ (เวลาทำจริง ๆจะไม่ได้ทำเรียงข้อนะคะ ทำข้ามไปมา แต่เรียงลำดับเหตุการณ์ในบทความมากกว่า)
- ความคิดเห็นที่เราเจอในบทความ จะไม่ได้เขียนเหมือนกับในคำถามตรง ๆ นะคะ ต้องตีความหมาย ใจความของความเห็นนั้น ๆ ก่อน
...สู้ สู้
Friday, July 13, 2007
IELTS : Reading
วันก่อนทำ Listening Module ของ IELTS ไป สอง Practice ตัวแรกยังพอไหวค่ะ พอเจอ Practice ที่ 2 บาง Section ฟังไม่ทันเลย...ยิ่งถ้ามีเสียงทีวี หรือเสียงคีย์บอร์ดเคาะใกล้ ๆ แล้วสมาธิกระเจิงเลยค่ะ....จับใจความแทบไม่ได้...(ข้อเสียของคนสมาธิสั้น) รวม ๆ แล้วได้ประมาณ 60% เฮ้อ เรียนเอง อ่านเองแบบนี้ถ้าไม่มีวินัย แย่ แน่ ๆ เลยค่ะ
วันนี้จะลอง Reading passage ของ IELTS ซัก 2-3 บทความ ดูนะคะ
วันนี้จะลอง Reading passage ของ IELTS ซัก 2-3 บทความ ดูนะคะ
- ในการสอบ IELTS จะมีประมาณ 3 บทความแต่ละบทความอยู่ระหว่าง 1500-2000 คำ
- มีคำถามในส่วนนี้ประมาณ 38-42 ข้อ โดยมีเวลา 60 นาทีในการทำข้อสอบค่ะ
- ประเภทของบทความมีทั้งมาจากนิตยสาร บทความ ตำราและหนังสือพิมพ์ค่ะ
- รูปแบบของคำถามจะมีทั้งแบบ Multiple choices, ตอบคำถามสั้น ๆ เติมคำให้ประโยคสมบูรณ์ เติมข้อมูลในตาราง แผนภูมิ จับคู่คำหรือประโยค....
Wednesday, July 11, 2007
Plan, Write and Revise : Writing essay
การเขียน Essay จะประกอบด้วยการ...
12 ขั้นตอนการเขียน Essay >>> 5 ขั้นแรกจะอยู่ในส่วนของการวางแผน
7. เขียนย่อหน้าแรก Introduction
8. เขียนย่อหน้าที่สอง Body (อาจแตกเป็นหลายย่อหน้า)
9. เขียนย่อหน้าสุดท้ายที่เป็นบทสรุป(conclusion)
Revise - ตรวจสอบ แก้ไข
10. ตรวจสอบเนื้อหา
11. ตรวจสอบความสอดคล้องกันของแต่ละประโยค เช่น มี strucure parallel หรือไม่
12. ตรวจสอบการเว้นวรรคและสะกดคำ
คราวหน้าจะมาลงรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนอีกทีนะคะ...
- Plan - วางแผนการเขียน
- Write - ลงมือเขียน
- Revise - ตรวจสอบ แก้ไข
12 ขั้นตอนการเขียน Essay >>> 5 ขั้นแรกจะอยู่ในส่วนของการวางแผน
Plan- วางแผนการเขียน
- อ่านหัวข้อ /โจทย์
- ตีความว่าโจทย์ต้องการให้ทำอะไร
- เขียนคำตอบที่เป็นแนวคิดหลักของเรา (thesis statement)
- เขียนแนวคิดรองอื่น ๆ (General idea)
- แตกแนวคิดต่าง ๆ ออกเป็นรายละเอียด (Specific Detail)
Write - ลงมือเขียน
6. เขียนประโยคที่เป็นหัวข้อหลัก(Topic sentence)ในแต่ละย่อหน้า (introduction,body,conclusion)7. เขียนย่อหน้าแรก Introduction
8. เขียนย่อหน้าที่สอง Body (อาจแตกเป็นหลายย่อหน้า)
9. เขียนย่อหน้าสุดท้ายที่เป็นบทสรุป(conclusion)
Revise - ตรวจสอบ แก้ไข
11. ตรวจสอบความสอดคล้องกันของแต่ละประโยค เช่น มี strucure parallel หรือไม่
12. ตรวจสอบการเว้นวรรคและสะกดคำ
คราวหน้าจะมาลงรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนอีกทีนะคะ...
รูปแบบการทดสอบ IELTS : Listening Part
รูปแบบการทดสอบ IELTS
จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
เพราะฉะนั้นต้องใช้สมาธิมาก ๆ ตอนที่ทดสอบก็เช่นกันถ้าเปิดทีวีไปด้วย ทำข้อสอบไปด้วย ไม่เวิร์คค่ะ
ลองมาแล้ว สมาธิกระเจิง....ต่อไม่ติดเลย
อีกวิธีที่กะลังลองทำนะคะ คือพยายามฟังภาษาอังกฤษเยอะ ๆ ดูหนัง Soundtrack (ที่ไม่มี Sub ไม่งั้นจะอ่านอย่างเดียว) หรือ ไม่ก็พยายามเปิดช่องข่าวภาษาอังกฤษ CNN, BBC, ABC, etc ให้หูคุ้นกับสำเนียงเข้าไว้ค่ะ......(วิธีนี้อาจมีปัญหากับ Roommate ได้ ถ้าเค้าจะดูหนัง ดูละคร...หรือดู ASTV)
ฟังก่อนเข้านอน.....ตั้งปลุกตื่นนอน ให้เปิดช่องข่าวปลุกซะเลย......
ในส่วนของ Listening มี 4 Section
2 Section แรกจะเป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน ส่วน 2 Section หลังจะเป็นบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การเรียนการสอน หรือการบรรยายในห้องเรียน...
คำถามจะมีทั้งแบบ
------
Links ดาวน์โหลด คู่มือเตรียมสอบค่ะ
http://rapidshare.de/files/13529887/BIELTS1.zip
เข้าแล้วกดที่ Free นะคะ แล้วก็รอค่ะ..
ใส่ตัวเลข access code ที่เห็นในรูป ในช่องว่าง
แล้ว save ลงเครื่องได้เลยค่ะ
ถ้าจะ download ไฟล์อื่นต่อ ต้องรอซัก 5 นาทีแล้วค่อยโหลดใหม่นะคะ
Links ดาวน์โหลด ไฟล์เสียงสำหรับ Practice 1
http://rapidshare.de/files/13530053/ielts11.zip
ทำวิธีการเดียวกัน
-------
เพิ่มเติม tips ในการทำข้อสอบ Listening
จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
- Listening มี 4 Section 40 ข้อ เวลาประมาณ 30 นาที
- Academic Reading หรือ/ General Training Reading มี -3 Section 40 ข้อ เวลาประมาณ 60 นาที
- Academic Writing หรือ/ General Training Writing -มี 2 ชิ้น เวลาประมาณ 60 นาที
- Speaking ประมาณ 10-15 นาที
เพราะฉะนั้นต้องใช้สมาธิมาก ๆ ตอนที่ทดสอบก็เช่นกันถ้าเปิดทีวีไปด้วย ทำข้อสอบไปด้วย ไม่เวิร์คค่ะ
ลองมาแล้ว สมาธิกระเจิง....ต่อไม่ติดเลย
อีกวิธีที่กะลังลองทำนะคะ คือพยายามฟังภาษาอังกฤษเยอะ ๆ ดูหนัง Soundtrack (ที่ไม่มี Sub ไม่งั้นจะอ่านอย่างเดียว) หรือ ไม่ก็พยายามเปิดช่องข่าวภาษาอังกฤษ CNN, BBC, ABC, etc ให้หูคุ้นกับสำเนียงเข้าไว้ค่ะ......(วิธีนี้อาจมีปัญหากับ Roommate ได้ ถ้าเค้าจะดูหนัง ดูละคร...หรือดู ASTV)
ฟังก่อนเข้านอน.....ตั้งปลุกตื่นนอน ให้เปิดช่องข่าวปลุกซะเลย......
ในส่วนของ Listening มี 4 Section
2 Section แรกจะเป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน ส่วน 2 Section หลังจะเป็นบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การเรียนการสอน หรือการบรรยายในห้องเรียน...
คำถามจะมีทั้งแบบ
- Multiple choice
- ตอบคำถามสั้น ๆ
- เติมข้อความให้สมบูรณ์
- เติมบันทึกข้อความ/flow chart/ตาราง ให้สมบูรณ์
- จับคู่
------
Links ดาวน์โหลด คู่มือเตรียมสอบค่ะ
http://rapidshare.de/files/13529887/BIELTS1.zip
เข้าแล้วกดที่ Free นะคะ แล้วก็รอค่ะ..
ใส่ตัวเลข access code ที่เห็นในรูป ในช่องว่าง
แล้ว save ลงเครื่องได้เลยค่ะ
ถ้าจะ download ไฟล์อื่นต่อ ต้องรอซัก 5 นาทีแล้วค่อยโหลดใหม่นะคะ
Links ดาวน์โหลด ไฟล์เสียงสำหรับ Practice 1
http://rapidshare.de/files/13530053/ielts11.zip
ทำวิธีการเดียวกัน
-------
เพิ่มเติม tips ในการทำข้อสอบ Listening
- อย่ากลับไปดูคำถามอีกถ้าตัดสินใจตอบไปแล้ว
- อ่านคำถามล่วงหน้าก่อนฟัง
- ในระหว่างฝึกฟัง อย่าฟังซ้ำบ่อย ๆ นะคะ พยายามฟังให้ได้ใจความในรอบเดียว เพราะเวลาสอบ รอบเดียวค่ะ
คู่มือสอบ TOEFL, IELTS ฟรี ๆ มีให้ดาวน์โหลดจ้า....
เกริ่นก่อนนะคะ ว่าบล็อกนี้มีไว้เป็นเครื่องมือในการเตรียมตัวสอบ TOEFL, IELTS ส่วนตัว ที่คิดว่า การได้อ่าน ได้เรียบเรียงความคิดผ่านการเขียน จะช่วยทำให้เรา เข้าใจ และจดจำได้มากขึ้น และอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ผู้อ่าน นักเรียน นักศึกษาคนอื่น ๆ ในการเตรียมตัวสอบ TOEFL หรือ IELTS ได้บ้างด้วย....
ตอนนี้คงต้องเริ่มตั้งเป้าหมายก่อนเลยดีกว่า ...ว่า..ตุลาคมนี้จะสอบ IELTS (ด้วยความที่เข้าใจไปเองหรือเปล่าไม่ทราบ ว่า IELTS น่าจะสอบแล้วไม่เครียดเท่า TOEFL ซึ่งจะกดดันมากกว่า) ตอนนี้เหลือเวลาอีก 3 เดือนเท่านั้น !!! จะไหวมั้ยนะ .....ทีนี้อยากได้คะแนนเท่าไหร่ดีน้อ...ขอสูง ๆ ดีกว่าค่ะ ซัก 7 แล้วกันนะ...อิอิ Think Global, Act Local ค่ะ คิดใหญ่ไว้ก่อน.....ทำเต็มที่ได้ไม่ถึงก็ไม่เป็นไร
คงต้องขอบคุณ Google อีกครั้งหนึ่งที่ทำให้ได้ของฟรี ๆ อีกแล้ว....และขอบคุณเน็ตแรง ๆ ฟรี ๆ แถว ๆ นี้ด้วย
มีหลายที่ค่ะ ที่ให้โหลดกันฟรี ๆ ลองไปดูข้อมูล link ต่าง ๆ ในบล็อก http://toeflexam.blogspot.com/ นะคะ ของเค้าดีค่ะ...
ตอนนี้คงต้องเริ่มตั้งเป้าหมายก่อนเลยดีกว่า ...ว่า..ตุลาคมนี้จะสอบ IELTS (ด้วยความที่เข้าใจไปเองหรือเปล่าไม่ทราบ ว่า IELTS น่าจะสอบแล้วไม่เครียดเท่า TOEFL ซึ่งจะกดดันมากกว่า) ตอนนี้เหลือเวลาอีก 3 เดือนเท่านั้น !!! จะไหวมั้ยนะ .....ทีนี้อยากได้คะแนนเท่าไหร่ดีน้อ...ขอสูง ๆ ดีกว่าค่ะ ซัก 7 แล้วกันนะ...อิอิ Think Global, Act Local ค่ะ คิดใหญ่ไว้ก่อน.....ทำเต็มที่ได้ไม่ถึงก็ไม่เป็นไร
คงต้องขอบคุณ Google อีกครั้งหนึ่งที่ทำให้ได้ของฟรี ๆ อีกแล้ว....และขอบคุณเน็ตแรง ๆ ฟรี ๆ แถว ๆ นี้ด้วย
มีหลายที่ค่ะ ที่ให้โหลดกันฟรี ๆ ลองไปดูข้อมูล link ต่าง ๆ ในบล็อก http://toeflexam.blogspot.com/ นะคะ ของเค้าดีค่ะ...
Subscribe to:
Posts (Atom)